อัลตร้าซาวด์ช่องท้องช่วยวินิจฉัยโรคอะไรได้บ้าง

การอัลตร้าซาวด์ (Ultrasound)  คือการตรวจวินิจฉัยโรคโดยการใช้คลื่นเสียงกำลังสูงสะท้อนให้เกิดภาพ ซึ่งสามารถตรวจดูอวัยวะต่าง ๆ ทำให้เห็นได้ถึงความผิดปกติบางชนิด  สามารถช่วยในการวินิจฉัยโรคของแพทย์ได้ โดยทั่วไปการตรวจอัลตร้าซาวด์ช่องท้องไม่ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวด เพราะเป็นเพียงการใช้หัวตรวจเคลื่อนไปบนผิวหน้าท้องภายนอก ซึ่งไม่ต้องมีการใช้ยาชาหรือฉีดยา อีกทั้งคลื่นเสียงที่ใช้ก็มีความปลอดภัยและไม่ก่อให้เกิดอันตราย

โดยการตรวจสุขภาพส่วนใหญ่จะมีการอัลตร้าซาวด์อยู่ 2 ส่วน คือ

  • การอัลตร้าซาวด์ช่องท้องส่วนบน (Ultrasound Upper Abdomen หรือ Upper Adomen Ultrasonography)
  • การอัลตร้าซาวด์ช่องท้องส่วนล่าง (Ultrasound Lower Abdomen หรือ Lower Adomen Ultrasonography)

การตรวจอัลตร้าซาวด์ช่องท้องส่วนบน

เป็นการตรวจดูอวัยวะช่องท้องส่วนบนเหนือระดับสะดือขึ้นไป ได้แก่ ตับ, ม้าม, ถุงน้ำดี, ท่อน้ำดีส่วนต้น, ไต และหลอดเลือดแดงใหญ่, ตับอ่อน (บางรายเห็นได้บางส่วน) ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เช่น นิ่วที่ไต นิ่วที่ถุงน้ำดี เนื้องอกในตับ ไต เป็นต้น ตรวจได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง

การตรวจอัลตร้าซาวช่องท้องส่วนล่าง

เป็นการตรวจดูอวัยวะของช่องท้องส่วนล่างต่ำกว่าระดับสะดือลงไป ได้แก่ มดลูก, รังไข่ (หญิง), ต่อมลูกหมาก (ชาย), กระเพาะปัสสาวะ และบริเวณช่องท้องส่วนล่าง อื่น ๆ ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เช่น เนื้องอกมดลูก, เนื้องอก/ถุงน้ำรังไข่ ขนาดต่อมลูกหมาก(ชาย), นิ่วและเนื้องอกกระเพาะปัสสาวะ

การตรวจอัลตร้าซาวด์ช่องท้องส่วนล่าง มักจะตรวจกันมากในกลุ่มผู้หญิงที่อายุ 30 ปีขึ้นไป หรือกลุ่มที่ปวดท้องประจำเดือนเป็นประจำ หรือประจำเดือนมามากมาน้อย ผิดปกติ ตรวจโดยใช้หัวตรวจตรวจบริเวณหน้าท้อง การตรวจด้วยวิธีนี้จะต้องตรวจในขณะที่ปวดปัสสาวะมากพอสมควร ทั้งนี้เนื่องจากลมในลำไส้จะบดบังมดลูกและรังไข่ในผู้หญิงหรือต่อมลูกหมากในผู้ชาย ทำให้มองเห็นภาพอวัยวะได้ไม่ชัดเจน แต่เมื่อมีน้ำในกระเพาะปัสสาวะมากพอทำ กระเพาะปัสสาวะจะช่วยให้เห็นมดลูก รังไข่ ต่อมลูกหมาก หรือนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้

ทำไมต้องตรวจอัลตร้าซาวด์ช่องท้อง?

  • เพื่อตรวจอวัยวะภายในช่องท้องตามช่วงอายุหรือตามโปรแกรมในรายการตรวจสุขภาพ เพื่อหาความผิดปกติเบื้องต้นในขณะที่ยังไม่มีอาการ เช่น นิ่วในไต, นิ่วในถุงน้ำดี, ก้อนในตับ เพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการวางแผนการรักษา หรือติดตามการรักษาในอนาคต
  • ตรวจเมื่อมีอาการปวด ตึง หรือแน่นท้องประจำหรือเรื้อรัง หรือมีการเพิ่มขนาดของอวัยวะในช่องท้อง หรือผลเลือดตับผิดปกติ
  • ใช้ตรวจซ้ำเพื่อติดตามผล เนื่องจากความผิดปกติบางอย่างที่ได้รับการรักษาไปแล้ว หรือเพื่อเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของความผิดปกตินั้น ๆ

การเตรียมตัวอย่างไรถ้าต้องตรวจอัลตร้าซาวด์ช่องท้อง

  • ควรงดอาหารและเครื่องดื่มอย่างน้อย 6 ชั่วโมงขึ้นไป
  • การตรวจช่องท้องส่วนล่างควรดื่มน้ำเปล่า (อย่างน้อย 500ml) และกลั้นปัสสาวะไว้
  • กรณีตรวจทั้งบน/ล่าง ห้ามดื่มน้ำก่อน

ขั้นตอนการตรวจเป็นอย่างไร

การตรวจอัลตร้าซาวด์จะให้การตรวจโดยแพทย์ ผู้ป่วยจะนอนบนเตียง แพทย์จะทาผิวหนังในบริเวณที่ตรวจด้วยเจล (Gel) เย็น ๆ เหมือนเจลทั่วไป เพื่อช่วยการส่งผ่านคลื่นเสียงจากหัวตรวจ ผ่านผิวหนังเข้าไปดูอวัยวะต่าง ๆ ในขณะตรวจแพทย์จะกดหัวเครื่องตรวจบนผิวหนัง/ร่างกายส่วนที่จะตรวจเบา ๆ เคลื่อนไปจนทั่วบริเวณที่ตรวจ โดยแพทย์และผู้ป่วยจะมองเห็นภาพอวัยวะจากการตรวจบนจอเครื่องตรวจไปพร้อม ๆ กัน เวลาในการตรวจขึ้นกับตำแหน่งอวัยวะที่ต้องการตรวจและความผิดปกติ

หลังการตรวจอัลตร้าซาวด์มักไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ และสามารถกลับบ้านได้ทันที ผู้ป่วยจะสามารถขับรถ ดื่มน้ำ รับประทานอาหาร และทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามปกติ ผลการตรวจอัลตร้าซาวด์ส่วนใหญ่ใช้เวลาไม่นานหลังจากการตรวจเสร็จสิ้น ส่วนมากจะมีการวิเคราะห์ภาพที่ได้จากการอัลตร้าซาวด์และส่งรายงานไปยังแพทย์ที่สั่งตรวจ โดยแพทย์อาจอธิบายหรือพูดคุยเกี่ยวกับผลลัพธ์การตรวจได้ภายในวันนั้นเลยว่าปกติหรือมีความผิดปกติบริเวณอวัยวะส่วนไหนอย่างไร

สวัสดี!

ติดต่อกับเราได้อย่างง่ายดายกว่าที่เคย

ติดตามข่าวสาร

จากโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต

กรุณากรอกอีเมลคุณเพื่อรับข่าวสารจากโรงพยาบาล