การรักษาโรคไตขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค ดังนี้
- โรคไตเฉียบพลัน มักเกิดจากภาวะขาดน้ำ การติดเชื้อ หรือการได้รับสารพิษ การรักษามุ่งเน้นไปที่การแก้ไขสาเหตุของโรคและการรักษาตามอาการ เช่น การให้ยาปฏิชีวนะหากมีการติดเชื้อ การให้สารน้ำหากขาดน้ำ หยุดยา หรือสารที่เป็นพิษต่อไต
- โรคไตเรื้อรัง มักเกิดจากการเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไตอักเสบ หรือโรคทางพันธุกรรม การรักษามุ่งเน้นไปที่การชะลอการเสื่อมของไตและการรักษาภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น ความดันโลหิตสูง ภาวะบวมน้ำ ภาวะเลือดเป็นกรด ภาวะโลหิตจาง ภาวะกระดูกพรุน เป็นต้น การรักษาโรคไตเรื้อรังมีดังนี้
- การรักษาตามอาการ มักใช้ยาขับปัสสาวะ ยารักษาความดันโลหิตสูง ยารักษาเบาหวาน ยารักษาภาวะโลหิตจาง ยารักษาภาวะกระดูกพรุน เป็นต้น
- การปรับพฤติกรรม ผู้ป่วยควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต เช่น ควบคุมอาหาร งดเค็ม งดสูบบุหรี่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่ซื้อยารับประทานเอง
- การรักษาด้วยยา ยาที่ใช้รักษาโรคไตเรื้อรังมีหลายชนิด ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของโรค เช่น
- ยาลดความดันโลหิตสูง (Antihypertensives) เพื่อควบคุมความดันโลหิต ซึ่งจะช่วยชะลอการเสื่อมของไต
- ยาลดน้ำตาลในเลือด (Antidiabetics) เพื่อบควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งจะช่วยชะลอการเสื่อมของไต
- ยารักษาภาวะโลหิตจาง (Antianemics) เพื่อช่วยให้ร่างกายมีความเข้มข้นของเลือดดีขึ้นเพียงพอ ลดอาการอ่อนเพลีย
- ยารักษาภาวะกระดูกพรุน (Bone-strengthening medications) ช่วยให้กระดูกแข็งแรง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะกระดูกหัก
- การฟอกไตทางหลอดเลือด เป็นการบำบัดทดแทนไต ที่ใช้ในการรักษาโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย โดยนำเลือดออกจากร่างกายไปฟอกด้วยเครื่องฟอกไต ซึ่งจะทำหน้าที่กำจัดของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากเลือด แล้วนำเลือดกลับเข้าสู่ร่างกาย ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายจำเป็นต้องฟอกไตเป็นประจำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
- การปลูกถ่ายไต เป็นการบำบัดทดแทนไตถาวร โดยใช้ไตจากผู้บริจาคมาปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย การปลูกถ่ายไตเป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย
หากมีอาการของโรคไต ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง