การส่องกล้องระบบทางเดินอาหารมีหลายแบบ แต่การส่องกล้องที่พูดถึงกันบ่อย ๆ มักมีอยู่ 2 แบบ คือ
- EGD หรือการส่องกล้องกระเพาะอาหาร
- Colonoscopy หรือการส่องกล้องลำไส้ใหญ่
มีการเข้าใจผิด นึกว่าส่องกล้องก็คือส่องทีเดียวจากบนลงล่างซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่ การส่องกระเพาะอาหาร คือการส่องกล้องขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 1 เซนติเมตร เข้าไปทางปากผ่านกระเพาะอาหารถึงลำไส้เล็กส่วนต้น ส่วนการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ คือการส่องจากทวารหนักหรือว่าก้นเข้าไปถึงบริเวณลำไส้เล็กส่วนปลาย
วิธีการเตรียมตัวของการส่องกล้องกระเพาะอาหารและการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ก็แตกต่างกัน
การส่องกล้องกระเพาะอาหารทำได้ง่าย เพียงแค่งดน้ำงดอาหาร 6-8 ชม. ก่อนมาส่องกล้องก็สามารถทำได้ ในขณะที่การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ต้องมีการเตรียมลำไส้ คือการกินยาถ่ายและถ่ายจนอุจจาระมีลักษณะใสหรือที่เราเรียกกันว่า การล้างลำไส้ นั่นเอง
การส่องกล้องจำเป็นหรือไม่?
ต้องบอกว่าการตรวจร่างกายของแพทย์จากภายนอกโดยการคลำหน้าท้อง ไม่สามารถบอกรายละเอียดต่าง ๆ ของการพยาธิสภาพในกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่ได้ การส่องกล้องกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่จึงจำเป็นและเป็นตัวช่วยในการวินิจฉัยโรคหรือพยาธิสภาพในกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่
การส่องกล้องจำเป็นสำหรับใคร?
- การส่องกล้องกระเพาะอาหารจำเป็นสำหรับคนที่มีอาการ
- ปวดแสบท้อง จุกแน่นลิ้นปี่ เป็น ๆ หาย ๆ
- มีสัญญาณของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารเช่น อาการน้ำหนักลด มีถ่ายปนเลือดหรือถ่ายดำ
- ปวดแสบท้องที่รักษาไม่ดีขึ้นด้วยการใช้ยา
- ปวดแสบท้องและมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร
- การส่องกล้องลำไส้ใหญ่จำเป็นสำหรับคนที่มีอาการ
- ท้องผูกสลับท้องเสีย
- ถ่ายมีเลือดปนหรือถ่ายมีมูกเลือด
- ถ่ายเป็นเม็ดเล็ก ๆ เม็ดกระต่ายหรือว่าถ่ายยาก
- ปวดเบ่งเวลาถ่าย
- อ่อนเพลีย หรือซีดโดยไม่รู้สาเหตุ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่อายุมาก
- อาจคลำก้อนได้ในท้อง
- มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งสำไส้ใหญ่
ดังนั้นหากเรามีอาการผิดปกติข้างต้นควรเข้าพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อปรึกษาถึงเรื่องการส่องกล้องต่อไป