เบาหวานขึ้นจอประสาทตา ทำอย่างไรให้ไม่ต้องผ่าตัด??

เบาหวานขึ้นจอประสาทตา ทำอย่างไรให้ไม่ต้องผ่าตัด??

สำหรับคนไข้ที่เป็นโรคเบาหวาน ภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตานั้นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ และคนไข้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจว่าแท้จริงแล้วโรคนี้มันเป็นอย่างไรแน่ ผลที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ มีคนไข้จำนวนมากต้องเสียการมองเห็นซึ่งทั้งที่จริงแล้วสามารถหลีกเลี่ยงได้

เรื่องที่คนไข้เบาหวานต้องเข้าใจกันผิดกันมาก มีหลัก ๆ ดังนี้

  • การมองเห็นปกติคือตาฉันดี ไม่ต้องทำอะไร
  • เข้าใจว่าต้องรอให้มีอาการเตือนก่อนจึงจะไปตรวจเบาหวานขึ้นตา
  • ไม่ยอมรับการรักษาเมื่อถึงเวลา เพราะกลัวหรืออาจจะกังวลผลข้างเคียงจากการรักษา

เบาหวานขึ้นตา ภัยเงียบของคนเป็นเบาหวาน

อันดับแรกที่ต้องเข้าใจก่อนเลยคือ เบาหวานขึ้นตานั้นเป็นอย่างไร คนที่มีเบาหวานขึ้นตาแล้วไม่ได้มีอาการปวด เคือง ตาแดง หรือแสบตาอะไรทั้งสิ้น เรียกง่าย ๆ ว่าไม่มีอาการ เวลาส่องกระจกหรือมองหน้ากันก็เหมือนตาปกติ ทั้งนี้ก็เพราะเบาหวานขึ้นตานั้นจะทำลายจอประสาทตาจากข้างใน ก็เพราะน้ำตาลที่เป็นสาเหตุของโรคนั้นมาตามเส้นเลือดที่มาเลี้ยงลูกตาจากทางด้านหลังนั่นเอง

เบาหวานขึ้นจอประสาทตา ทำอย่างไรให้ไม่ต้องผ่าตัด??

อีกเรื่องที่เข้าใจกันผิดมาก ๆ ก็คือความเข้าใจที่ว่า การมองเห็นยังดี ก็ไม่น่าจะเป็นอะไรเพราะแปลว่าเบาหวานไม่ได้ขึ้นตา หรือถ้าเป็นก็คงไม่น่าจะเป็นอะไรไม่มาก ซึ่งนี่ก็ไม่จริง เพราะถ้าการมองเห็นเริ่มสูญเสียหรือเริ่มมีตามัวแล้วมักจะแปลว่าเบาหวานขึ้นตาของคนไข้รายนั้น ๆ มักจะดำเนินไปถึงระยะท้ายแล้วที่รักษากันค่อนข้างยาก กู้การมองเห็นกลับขึ้นมาลำบาก

ข้อสำคัญที่คนไข้ต้องเข้าใจคือ เบาหวานขึ้นตาระยะแรกหรือระยะกลางที่รักษาแล้วได้ผลการมองเห็นระยะยาวที่ดีนั้น มักไม่ได้รอให้ตามัวมากก่อนแล้วค่อยมาพบหมอ แต่เป็นกลุ่มคนไข้เบาหวานที่รับการตรวจเบาหวานขึ้นตาโดยละเอียดเป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อตรวจติดตามอาการแล้วพบว่าโรคเริ่มลุกลามจึงได้รับการรักษาอย่างเร็ว คนไข้กลุ่มนี้จึงเป็นคนไข้ที่ได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงทำให้ได้ผลการมองเห็นระยะยาวที่ดี

ระยะของโรคเบาหวานขึ้นตา

เบาหวานขึ้นตา รักษากันอย่างไรให้หลีกเลี่ยงการผ่าตัด?

การรักษาภาวะเบาหวานขึ้นตา มีเพียงแค่ 2 แบบเท่านั้น

  1. รักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งได้แก่ การทำเลเซอร์และการฉีดยาเข้าน้ำวุ้นตา
  2. รักษาโดยการผ่าตัดจอประสาทตา

การรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด:
เป็นการรักษาที่ให้ผลการมองเห็นดีในเบาหวานขึ้นตาระยะเริ่มแรกและระยะกลาง การรักษาหลักจะประกอบด้วย 2 อย่างคือการรักษาโดยการทำเลเซอร์จอประสาทตา และ การฉีดยาน้ำวุ้นตา

เบาหวานขึ้นจอประสาทตา

คนไข้มักจะได้รับการรักษาอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือร่วมกันทั้ง 2 อย่าง ขึ้นอยู่กับลักษณะและระยะของเบาหวานขึ้นตา (ไม่มีการรักษาไหนดีกว่าการรักษาไหนเพราะเลเซอร์และการฉีดยาเข้าตามีจุดประสงค์การรักษาในแง่มุมที่แตกต่างกัน) คนไข้หลายรายที่มีลักษณะเบาหวานขึ้นตาแบบเรื้อรัง อาจจะต้องได้รับการฉีดยาเข้าน้ำวุ้นตาไปเรื่อย ๆ เป็นระยะ เพื่อควบคุมการกำเริบของโรคและเพื่อคงการมองเห็นที่ดีเอาไว้

โดยการผ่าตัดจอประสาทตา:
การผ่าตัดจอประสาทตาในโรคเบาหวานขึ้นตา มักจะใช้ในคนไข้ที่ไม่สามารถควบคุมโรคได้ด้วยการฉีดยาและการทำเลเซอร์จอประสาทตา คนไข้ที่มีเลือดออกในตาซ้ำซาก หรือคนไข้ที่ตัวโรคเข้าระยะสุดท้ายและมีการมองเห็นที่ไม่ดี

เนื่องจากการรักษาโดยการผ่าตัดจอประสาทตาเป็นการรักษาที่มีความยากและซับซ้อน มีระยะพักฟื้นที่ยาวนาน ไม่สามารถรับประกันได้ว่าการมองเห็นจะดีขึ้นได้หลังการผ่าตัด และมีคนไข้หลายรายต้องรับการผ่าตัดหลายรอบ และมีไม่น้อยที่หลังการผ่าตัดรักษาจบลงด้วยผลการมองเห็นที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก ดังนั้นความเข้าใจของคนไข้ที่คิดว่าการผ่าตัดจอประสาทตาจะเป็นทางออกให้เบาหวานขึ้นตาหายขาดและทำให้การมองเห็นกลับมาดีอย่างแน่นอนจึงไม่ถูกต้อง

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่สามารถทำให้เลี่ยงการผ่าตัดจอประสาทตาหากคุณเป็นเบาหวาน

สิ่งที่คนไข้มักไม่ค่อยทราบกันก็คือ ในปัจจุบันนั้นการรักษาเบาหวานขึ้นตาด้วยการทำเลเซอร์และการฉีดยาเข้าน้ำวุ้นตา (ฉีดยาตา) ให้ผลการรักษาที่ดีมาก ๆ โดยสามารถหยุดการดำเนินโรคไม่ให้โรคลามไปถึงระยะท้าย และที่สำคัญยังสามารถทำให้การมองเห็นกลับดีขึ้นได้อย่างน่าพอใจในผู้ป่วยหลายราย แต่การรักษาด้วยวิธีทั้ง 2 นี้ก็มีข้อจำกัดเพราะสามารถให้ผลการรักษาที่ดีในกรณีที่เบาหวานขึ้นตายังไม่ลามเข้าสู่ระยะสุดท้ายเท่านั้น

ดังนั้น 2 อย่างที่สำคัญที่สุดที่คนไข้สามารถทำได้เพื่อให้เลี่ยงการผ่าตัดจอประสาทตาไปได้ก็คือ

1. เข้ารับการตรวจเช็คเบาหวานขึ้นตาเป็นระยะเพื่อป้องกันไม่ให้โรคลุกลามไปถึงเบาหวานระยะท้าย: การตรวจคัดกรองเบาหวานขึ้นตาในคนที่รู้ตัวอยู่แล้วว่าเป็นเบาหวานแต่ยังมีการมองเห็นที่ปกติ ถือเป็น “หัวใจ” ของการควบคุมเบาหวานขึ้นตาไม่ให้ลามเข้าระยะสุดท้าย และทำให้คนไข้ได้รับการรักษาโดยการฉีดยาและเลเซอร์ตั้งแต่เนิ่น ๆ

เบาหวานขึ้นจอประสาทตา

สิ่งที่คนไข้ควรทราบคือ การตรวจเบาหวานขึ้นตามีความละเอียดในหลายระดับ
การตรวจแบบคัดกรองพื้นฐาน: จะทำได้โดยจักษุแพทย์ทั่วไปและมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมากนัก หากพบปัญหาก็จะส่งต่อให้แพทย์เฉพาะทางด้านจอประสาทตาทำการรักษาต่อ
การตรวจเบาหวานขึ้นตาอย่างละเอียดกับแพทย์เฉพาะทางจอประสาทตา: เป็นการตรวจที่มีการใช้เครื่องมือเฉพาะทางที่มีความละเอียด และคนไข้จะได้รับการตรวจโดยตรงกับคุณหมอตาเฉพาะทางจอประสาทตา ข้อดีของการตรวจแบบนี้คือมีความไวในการตรวจพบเบาหวานขึ้นตาที่ดีกว่า โดยเฉพาะในบริเวณจุดรับภาพซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการมองเห็น และในกรณีตรวจพบภาวะเบาหวานขึ้นตาก็สามารถทำการรักษาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยไม่ต้องมีการส่งต่อ การตรวจแบบละเอียดก็จะใช้เวลานานกว่าและมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า

ให้คนไข้จำไว้ว่า การเข้ารับการตรวจเบาหวานขึ้นตาที่ได้ผลดีและคุ้มค่าที่สุด คือการมาตรวจเมื่อการมองเห็นยังเป็น “ปกติ” เบาหวานขึ้นตาไม่มีอาการเตือนให้รู้ตัวล่วงหน้า หากรอให้มีอาการก่อนแล้วค่อยมาตรวจก็มักจะสายไปเสียแล้ว

2. รับการรักษาเมื่อได้รับคำแนะนำให้รับการฉีดยา/เลเซอร์ อย่าปล่อยไว้ให้โรคลุกลาม
หัวใจของการรักษาเบาหวานขึ้นตาให้ได้ผลดีในระยะยาว คือการที่คนไข้ได้รับการรักษา “ตั้งแต่ระยะแรก ๆ” ดังนั้น เมื่อได้รับคำแนะนำจากแพทย์จอประสาทตาให้เริ่มรับการรักษา ไม่ว่าจะเป็นการฉีดยาเข้าน้ำวุ้นตา (ฉีดยาตา) หรือการเลเซอร์จอประสาทตา ก็ควรจะตัดสินใจรับการรักษาโดยเร็ว อย่าปล่อยไว้นานเพราะความจริงที่พบได้บ่อยคือ เมื่อได้รับคำแนะนำให้เริ่มรักษา คนไข้กลับเกิดความกลัว ไม่ยอมรับการรักษา ไม่ว่าจะกลัวโดยไม่มีเหตุผล กลัวผลข้างเคียงจากการรักษา ไปถามเพื่อนหรือคนข้างบ้านซึ่งไม่ใช่หมอตา และประวิงการรักษาไปจนโรคลุกลาม และเมื่อปล่อยไว้ให้การมองเห็นมัวมากกว่าเดิมแล้วค่อยเข้ามารับการรักษาก็มักจะช้าเกินไป ถือเป็นการเสียโอกาสที่จะเก็บการมองเห็นที่ดีไว้เป็นอย่างยิ่ง

หากคนไข้เบาหวานสามารถปฏิบัติตาม 2 ข้อนี้ได้ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการมองเห็นที่ดีไปตลอด โดยไม่ต้องเสี่ยงที่ภาวะเบาหวานขึ้นตาจะลุกลามไปถึงขั้นที่ต้องทำการผ่าตัดครับ

โดย นพ. กัปตัน วิริยะลัพภะ
ไบรท์วิว เซ็นเตอร์ (ศูนย์จอประสาทตาและรักษาสายตายาวตามอายุ)

สวัสดี!

ติดต่อกับเราได้อย่างง่ายดายกว่าที่เคย

ติดตามข่าวสาร

จากโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต

กรุณากรอกอีเมลคุณเพื่อรับข่าวสารจากโรงพยาบาล