สุขภาพของผู้หญิง: การตรวจคัดกรองมะเร็งทำได้อย่างไร?
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นส่วนสำคัญของการดูแลสุขภาพตามปกติของผู้หญิง ซึ่งมะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสฮิวแมนแพพพิลโลมา หรือไวรัสเอชพีวี (HPV) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสชนิดที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์
เป้าหมายหลักของการตรวจคัดกรอง คือ การระบุรอยโรคระยะก่อนเป็นมะเร็งเพื่อให้สามารถกำจัดออกได้ หลีกเลี่ยงการลุกลามของมะเร็ง ส่วนเป้าหมายรอง คือ การค้นพบมะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มแรก ซึ่งเป็นระยะที่มักจะสามารถรักษาให้หายขาดได้
ในปัจจุบัน การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกสามารถทำได้ 3 วิธี
- การตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear หรือ Pap Test) – เป็นการตรวจหาเซลล์มะเร็งปากมดลูกและการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ที่อาจนำไปสู่มะเร็งปากมดลูก
- การตรวจหาไวรัสเอชพีวี (HPV testing) ซึ่งจะตรวจหาการมีไวรัสเอชพีวีชนิดที่มีความเสี่ยงสูงในเซลล์ปากมดลูก
- การตรวจหาไวรัสเอชพีวีร่วมกับการตรวจแปปสเมียร์ (HPV/Pap cotesting) – เป็นการตรวจด้วยทั้งสองวิธีในเวลาเดียวกัน จะมีความแม่นยำสูงกว่าวิธีการตรวจ Pap Test อย่างเดียว
ผู้หญิงควรเริ่มตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเมื่อใด และควรตรวจคัดกรองบ่อยเพียงใด?
- ผู้หญิงอายุ 21 ถึง 29 ปี ควรได้รับการตรวจแปปสเมียร์ ทุก 3 ปี
- ผู้หญิงอายุ 30 ถึง 65 ปี ควรได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งใน 3 วิธีนี้
- ตรวจหาไวรัสเอชพีวีที่มีความเสี่ยงสูงเพียงอย่างเดียว ทุก 5 ปี
- ตรวจแปปสเมียร์ร่วมกับการตรวจหาไวรัสเอชพีวีชนิดที่มีความเสี่ยงสูง ทุก 5 ปี
- ตรวจแปปสเมียร์เพียงอย่างเดียว ทุก 3 ปี
ผู้หญิงที่มีปัจจัยเสี่ยงบางประการอาจต้องได้รับการตรวจคัดกรองบ่อยครั้ง หรือต้องตรวจคัดกรองต่อไปเมื่ออายุเกิน 65 ปี ซึ่งปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ ได้แก่
- ติดเชื้อไวรัสภูมิคุ้มกันบกพร่องของมนุษย์ หรือ ไวรัสเอชไอวี (HIV)
- ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน
- ได้รับการรักษารอยโรคระยะก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูกหรือได้รับการรักษามะเร็งปากมดลูก
ไม่แนะนำให้ทำการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกใน
- ผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า 21 ปี ซึ่งยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน
- ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ที่เคยได้รับการตรวจคัดกรองครั้งก่อน ๆ อย่างเพียงพอ และมีผลการตรวจปกติติดต่อกันอย่างน้อย 3 ครั้ง และผู้ที่ไม่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดมะเร็งปากมดลูก
- ผู้หญิงที่ได้รับการผ่าตัดมดลูกและปากมดลูกออกทั้งหมด (การผ่าตัดเอามดลูกและปากมดลูกออก) และไม่มีประวัติรอยโรคขั้นสูงที่ปากมดลูกหรือมะเร็งปากมดลูก